เสริมจมูก The EAST Clinic
ดั้งสวย เนียนเป็นธรรมชาติ

เสริมจมูกเทคนิค Structural smart lock คืออะไร

เทคนิค Structural smart lock (SSL) เป็นเทคนิคเฉพาะของคุณหมอพิชญ์ คือ การเหลาซิลิโคนตามลักษณะโครงสร้างของฐานจมูกแต่ละบุคคล ทั้งบริเวณกระดูกแข็ง nasal bone และกระดูกอ่อน Upper lateral cartilage (ULC) และ Alar cartilage หรือ Lower lateral cartilage (LLC) เพื่อให้ซิลิโคนล็อคไว้กับฐานจมูกเดิมด่านล่าง Infrastructure ทำให้ซิลิโคนแต่ละชิ้นจะเป็นลักษณะเฉพาะของแต่ละบุคคล ซึ่งถูกเหลาตามโครงสร้างจมูกของแต่ละคน จึงเป็นซิลิโคนที่มีอันเดียวเฉพาะของบุคคลนั้นๆ โดยจะครอบไปกับฐานจมูกเดิมได้ 100% เพื่อป้องกันการเบี้ยวเอียง การเคลื่อนที่ของซิลิโคน สโลปเนียนสวยตามความต้องการองคนไข้

จุดเด่นของการเสริมจมูกที่ The EAST Clinic

เหลาซิลิโคนเคสต่อเคส

ปรับแต่งทรงจมูกให้เข้ากับรูปหน้าของคนไข้และตรงความต้องการของคนไข้มากที่สุด

วางซิลิโคนล็อกแนวโครงสร้างจมูกใต้เยื่อหุ้มกระดูก

ทำให้ไม่เห็นขอบ ไม่เสี่ยงทะลุ จมูกบิดได้

ใช้ซิลิโคนที่มีมาตรฐานสากล

ผิวสัมผัสนิ่มพิเศษเป็นธรรมชาติ

ผ่าตัดไม่นาน

1-2 ชั่วโมง

ซิลิโคน ที่ The EAST Clinic เลือก

MANTIS STRUT
ซิลิโคนพรีเมียมนำเข้าจากอเมริกา สัมผัสนุ่ม บิดได้ ยึดเกาะได้ดี
Premium Silicone
นำเข้าจากอเมริกา ผิวสัมผัสนุ่ม
Previous slide
Next slide

ซิลิโคนทำมาจากพอลิเมอร์  Dimethysiloxane polymer ซึ่งซิลิโคนจะมีหลายเกรดขึ้นอยู่กับส่วนผสมในกระบวนการผลิต โดยสารที่ใช้ในการคงรูปซิลิโคน หรือส่วนผสมที่ต่างกัน จะทำให้คุณภาพของซิลิโคนต่างกัน เช่น food grade, medical grade, implant grade เป็นต้น

ซิลิโคนที่ได้มาตรฐานจะช่วยลดโอกาสการอักเสบ การแพ้ หรือโอกาสการเกิดมะเร็งในอนาคต (Noncarcinogen) ได้เป็นอย่างดี อีกปัจจัยที่สำคัญ คือ การยึดเกาะกับเนื้อเยื่อของซิลิโคน (Adhesion) วัสดุที่ดีต้องยึดเกาะกับโครงสร้างของร่างกายได้ดีและมีความยืดหยุ่น (Elasticity)  ซึ่งซิลิโคนที่ดิอีสท์คลินิกเลือกใช้สามารถยึดเกาะกับกระดูกและกระดูกอ่อนได้เป็นอย่างดี

นอกจากนี้ เรายังสามารถกำหนดค่าความนิ่มของซิลิโคนได้อีกด้วย ซึ่งค่าความนิ่มที่เหมาะสมในการเสริมจมูกอยู่ที่ 30-50 ดูโร (Durometer) หากแข็งเกินไปก็จะทำให้เสี่ยงต่อการทะลุได้มากกว่า หรือหากนิ่มเกินไปก็จะทำการเหลาขึ้นรูปได้ยาก และเมื่อเสริมไปแล้วอาจไม่ได้รูปทรงตามที่ต้องการเนื่องจากนิ่มเกินไป

เสริมจมูก ที่ The EAST Clinic ทรงจมูก ช่วยเสริมให้ใบหน้ามีมิติ เนียนสวย ธรรมชาติ หวานละมุน ทุกองศา ไม่โป๊ะ ไม่เวอร์

เลือกทรงเสริมจมูกแบบไหนดี ?

จมูกที่สวยไม่จำเป็นต้องดูโด่งมากหรือพุ่งมากเสมอไป ทรงของจมูกต้องเข้ากับส่วนอื่นๆ ของใบหน้าด้วย ซึ่งจะต้องสมดุลระหว่างความชอบ รสนิยม และนิยามความสวยของแต่ละบุคคล เพราะ ความสวยและความชอบของแต่ละท่านไม่เหมือนกัน การศัลยกรรมจมูกควรส่งเสริมให้ใบหน้าส่วนอื่นๆ โดดเด่นยิ่งขึ้นด้วย

นอกจากนี้ต้องคำนึงถึง อายุ เพศ รสนิยม การแต่งหน้า การแต่งตัว หน้าที่การงาน และวิถีชีวิต (Lifestyle) เพื่อเลือกทรงจมูกได้อย่างเหมาะสม เช่น ผู้หญิงวัย 20-30 ปี เป็นช่วงวัยที่ไม่ควรเสริมให้สูงจนเกินไป ควรจะเสริมจมูกให้ดูอ่อนหวานน่ารัก เป็นที่เมตตาของผู้ใหญ่

หากเป็นนางแบบหรือพริตตี้อาจแนะนำให้เสริมจมูกให้คมสูงขึ้น เหมาะกับการทำงานที่ต้องแต่งหน้าและเข้ากล้อง ซึ่งทั้งหมดนี้ต้องพิจารณาร่วมกับศัลยแพทย์ความงาม เพื่อให้ได้จมูกที่เหมาะสมกับแต่ละท่าน โดยต้องตั้งอยู่บนพื้นฐานของความปลอดภัยเป็นสำคัญ

คำถามที่พบบ่อย

“ฮัมพ์” คือ กระดูกบริเวณสันจมูกที่นูนออกมา อาจมีมากมีน้อยแตกต่างกันไป ซึ่งบางคนชอบ บางคนไม่ชอบ เพราะอาจทำให้ใบหน้าดูดุ ดูไม่หวาน ไม่ละมุน

ในการเสริมจมูกแล้ว การตะไบฮัมพ์ ค่อนข้างมีความสำคัญ เนื่องจากการตะไบฮัมพ์เป็นการเตรียมความพร้อมก่อนการวางซิลิโคน  เพื่อให้ซิลิโคนแนบไปกับกระดูกจริงให้ได้มากที่สุด และลดความเสี่ยงในการเบี้ยวหรือเอียงของซิลิโคนนั่นเอง

เสริมจมูก แผลปิด

1. การเสริมจมูกแบบปิด close rhinoplasty

คือ การเสริมจมูกที่ไม่ได้มีการเปิดดูโครงสร้างภายใน อาจใช้การลงแผลแบบผ่านรูจมูก 1 ข้างหรือ 2 ข้างก็เรียกว่าเป็นการเสริมจมูกแบบปิด การลงแผลแบบนี้จะลงแบบ Marginal incision คือ ลงแผลเลยริมจมูกเข้าไป 1-2 มม. เพื่อป้องกันการกรีดโดนกระดูกอ่อนปลายจมูก Lower lateral cartilage ซึ่งจะทำให้จมูกผิดรูปได้

วิธีการนี้ยังสามารถเย็บแผลโดยไม่มีไหมเย็บเลยออกมานอกจมูก เพื่อป้องกันแผลเป็นจากการเย็บและการเกิดเนื้อจมูกแหว่งจากการขาดเลือดบริเวณที่มีเส้นเลือดมาเลี้ยงน้อยของปลายจมูก (soft triangle ) หรือภาษาแพทย์จะเรียกว่า No man land ซึ่งห้ามเย็บบริเวณนี้ เพราะจะผิดรูปได้

การเสริมจมูกแบบปิดนี้อาจมีการนำไขมันปลายจมูกออก (Interdomal fat) การเย็บกระดูกอ่อนปลายจมูกเข้าหากัน (Interdomal suture) การตอกกระดูกฐานจมูก (Lateral osteotomy) การเสริมเนื้อเยื่อเทียม (Acellular dermal matrix ADM) เนื้อเยื่อไขมัน (Dermofat) หรือกระดูกอ่อนรองปลาย (Catilagenous graft) เพื่อวัตถุประสงค์ต่าง ๆ

 

เสริมจมูกแผลเปิด The EAST Clinic

2. การเสริมจมูกแบบเปิด open rhinoplasty

คือ การเปิดโครงสร้างของจมูกใต้ผิวหนังทั้งหมดขึ้นมาเพื่อวัตถุประสงค์ต่าง ๆ เช่น ซ่อมแซม (Reconstruction) ส่วนที่ได้รับความเสียหาย ยืดปลายจมูก (Tip projection) ยืดฐานจมูก ( Septal extension) แก้ไขจมูกที่เบี้ยวเอียง (Deviation) เป็นต้น โดยจะมีการลงแผลที่รูจมูกทั้ง 2 ข้างและผิวหนังบริเวณฐานจมูก เพื่อเปิดโครงสร้างภายในขึ้นมา อาจมีการยืดผนังกั้นจมูกโดยใช้วัสดุต่าง ๆ ได้แก่ กระดูกอ่อน เนื้อเยื่อเกี่ยวพันของตัวเอง เนื้อเยื่อเทียม กระดูกเทียม เป็นต้น
การเสริมจมูกแบบเปิด แนะนำสำหรับ ผู้ที่มีปลายจมูกสั้น (Short nose) จมูกชมพู่มาก (Bulbous tip) จมูกเบี้ยวเอียงมาก (Deviation) แก้มาหลายครั้ง (Multiple revision) หรือชอบจมูกที่ค่อนข้างพุ่ง (Patient favor) เป็นต้น

สรุป การจะเลือกเสริมวิธีใดขึ้นตามความต้องการของผู้ป่วยว่าต้องการทรงจมูกแบบไหนและฐานจมูกเดิมและเนื้อจมูกเป็นอย่างไร รวมทั้งพิจารณาถึงข้อดีข้อเสีย ของแต่ละวิธี รวมทั้งโรคประจำตัวของผู้ป่วยและระยะเวลาพักฟื้นของผู้ป่วยเป็นสำคัญ

เทคนิคเย็บกระดูกอ่อนส่วนปลายจมูกเข้าหากัน ทำให้ปลายจมูกยกขึ้น และที่สำคัญปลายจมูกดูเล็กลง ซึ่งเหมาะกับจมูกของคนไทย เพราะว่าส่วนใหญ่จมูกคนไทยปลายจมูกจะมีลักษณะชมพู่ หรือปลายจมูกใหญ่ จมูกโต

กระดูกอ่อนหลังหู (ear cartilage)

กระดูกอ่อนที่ใช้ในการเสริมจมูกสามารถนำมาจากหลาย ๆ ส่วนไม่ว่าจะเป็นผนังกั้นจมูก (Septal cartilage) ซี่โครง (costal cartilage) หรือกระดูกอ่อนหู (ear cartilage) ซึ่งปกติจะผ่าตัดกันโดยรอยแผลอยู่ทางด้านหลังหู (Postauricular approach) เพื่ออำพลางรอยแผลจากการผ่าตัด นิยมนำมาใช้เพิ่มปลายจมูก หรือนำมาใช้ยืดผนังกั้นจมูกและฐานจมูกได้เป็นอย่างดี

เนื้อเยื่อหลังหู (mastoid fascia)

เนื้อเยื่อหลังหูประกอบไปด้วยชั้นไขมัน และเส้นเอ็นสามารถนำมาใช้เพื่อรองปลายเพื่อลดการเห็นขอบของซิลิโคน หรือกระดูกอ่อนได้เป็นอย่างดี ทั้งยังสามารถใช้เพิ่มความยาวปลายจมูกได้อีกด้วย

เสริมจมูกด้วยเนื้อเยื่อก้นกบ

Dermofat graft หรือเนื้อเยื่อก้นกบ เป็นส่วนที่นิยมใช้กันมากที่สุด เนื่องจากทำได้ง่าย (easy to harvest) และมีปริมาณไขมันมาก ประกอบไปด้วยชั้นผิวหนังแท้ (Dermis) และชั้นไขมัน (Fat) สามารถนำมาใช้ทำสันจมูก เพิ่มปลายจมูก หรือรองปลายจมูกในเคสที่ผิวบางได้เป็นอย่างดี ทั้งยังมีคุณสมบัติต้านการอักเสบได้ดีอีกด้วย

เนื้อเยื่อเทียม (Acellular dermal Metrix) คือ เนื้อเยื่อที่ผ่านกระบวนการที่เรียกว่า Alloclean technology ซึ่งเป็นกระบวนการที่กำจัดเศษเซลล์ที่ตายแล้ว (Cell Debris), Antigens และไวรัสต่างๆ ด้วยการฆ่าเชื้อผ่านรังสี E-beam และผ่านการทดสอบน้ำเหลืองวิทยาแล้ว
เนื้อเยื่อเทียมของ The East Clinic มีความแตกต่างซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะ เนื้อเยื่อเทียมที่เป็นมิตรกับผิว

เนื้อเยื้อเทียม Megaderm Plus®

🔹 ผลิตจากประเทศเกาหลี ได้รับความนิยมจากแพทย์ และสาวเกาหลีมานาน
🔹 ผลิตจากคอลลาเจน จึงมีความหนานุ่ม หนา 3.5-4 mm.
🔹 ผ่านการทดสอบทางภูมิคุ้มกันวิทยาและน้ำเหลืองวิทยา สามารถอยู่ในร่างกายได้โดยไม่เกิดการต่อต้าน
🔹 ช่วยป้องกันการทะลุ
🔹 ช่วยให้ปลายละมุน ดูนุ่มนวล
🔹 มี อย. ไทยและเกาหลี

ประโยชน์ของเนื้อเยื่อเทียม
ผู้ที่เสริมจมูกและรองปลายด้วยเนื้อเยื่อเทียมจะทำให้ปลายจมูกโด่งสวยขึ้น (Increase tip projection) ช่วยแก้ไขปลายจมูกสั้นหรือเหิน (Short nose) และช่วยป้องกันการเห็นขอบซิลิโคนในเคสผิวบาง (Thin skin) เหมาะสำหรับเคสแก้จมูกที่ผิวปลายจมูกบางและเสริมบริเวณสันจมูกสำหรับเคสเนื้อน้อย ลดความเสี่ยงปลายทะลุ ซึ่งเนื้อเยื่อเทียมสามารถใช้ทดแทนการต่อปลายจมูกโดยไม่จำเป็นต้องผ่าตัด 2 ตำแหน่ง

การตัดปีกจมูกนั้นมีหลายแบบ เช่น การตัดแผลนอก (Weir Alar excision) เพื่อลดความบานของปีกจมูก การตัดแผลในเพื่อลดความกว้างของฐานรูจมูก (Alar base reduction) การตัดยกปีกจมูก (Sail excision) และการตัดลดความหนาของปีกจมูก (Alar rim excision) การจะเลือกการตัดแบบไหนนั้นควรคำนึงถึงลักษณะของจมูกของผู้ป่วยแต่ละรายเป็นสำคัญ รวมถึงการให้ข้อมูลเรื่องโอกาสการเกิดแผลเป็นหลังการผ่าตัดสำหรับแต่ละวิธีอีกด้วย

การเสริมจมูกใต้เยื่อหุ้มกระดูก (subperiosteal layer) เป็นการเสริมโดยการวางซิลิโคนไว้ในชั้นที่ลึกที่สุด ทำให้ผลลัพธ์ที่ได้ออกมาเรียบ เนียนเป็นธรรมชาติ ไม่เห็นขอบของซิลิโคน และตัวเยื่อหุ้มกระดูกเองยังช่วยยึดเกาะซิลิโคนไม่ให้ขยับไปมาได้ง่ายอีกด้วย ซึ่งช่วยในการลดความเบี้ยวเอียง การที่ซิลิโคนเคลื่อนที่ นอกจากนี้บริเวณนี้ยังมีเส้นเลือดอยู่น้อยทำให้การเสริมด้วยวิธีนี้มีความบวมช้ำน้อยมากเมื่อเทียบกับวิธีอื่น ๆ ทำให้หายเร็วกว่าอีกด้วย

เสริมจมูกพร้อมคางได้ไหม?

สำหรับผู้ที่มีเวลาน้อย ลาหยุดยาก เจ็บตัวทั้งทีเอาทีเดียวให้ครบ คำตอบคือ สามารถทำศัลยกรรมพร้อมกันได้เลย ใช้เวลาพักฟื้นทีเดียว อาการบวมเยอะเพียง 3 วันแรก

รายการสวยศาสตร์ มาพร้อมกับคำถามที่ว่า ทำศัลยกรรมทั้งทีควรทำทีละส่วน หรือทำพร้อมกันไปเลยดี? เชื่อว่าเพื่อน ๆ คงจะเคยเห็นในหนังเกาหลี หรือซีรีส์ที่มีตัวละครไปศัลยกรรม แล้วมีการใส่ผ้าพันแผลปิดหน้าทั้งหน้า เปิดมาอีกทีคืออย่างกับคนละคน ในชีวิตจริงคือเราทำได้แบบนั้นมั้ย เพราะในการทำศัลยกรรมส่วนนึง มันก็ต้องมีอาการบวมช้ำ หลายคนอาจกังวลว่าถ้าทำพร้อมกัน อาการบวมต่าง ๆ จะไปดันส่วนที่ศัลยกรรมเสริมซิลิโคน ทำให้เบี้ยวหรือผิดรูป แล้วช้ำหนักกว่าเดิมหรือเปล่า มาร่วมหาคำตอบกันที่ The East Clinic จ้าา

อ่านต่อทั้งหมด >> เสริมจมูก + คาง ทำครั้งเดียวแต่สวยไม่โป๊ะได้จริงไหม?

ขั้นตอนเสริมจมูกที่ The EAST

การเตรียมตัวก่อนการเสริมจมูก

งดอาหารเสริม วิตามินบำรุง ประมาณ 1-2 สัปดาห์
 
งดบุหรี่และแอลกอฮอล์ ประมาณ 1-2 สัปดาห์
ทานอาหารก่อนศัลยกรรม 1-2 ชม. เพื่อป้องกันการหน้ามืด เนื่องจากขาดน้ำตาล
ถ้ามีสิวอักเสบช่วงสันจมูกขึ้นมา ให้รีบฉีดสิวก่อน เนื่องจากสิวอักเสบจะทำให้ติดเชื้อได้

รีวิวเสริมจมูกที่ The EAST Clinic

*ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล
เสริมจมูก The EAST Clinic

เคสแก้

เสริมจมูก The EAST Clinic

เคสแก้

เสริมจมูก The EAST Clinic

เสริมใหม่

เสริมจมูก The EAST Clinic

เสริมใหม่

เสริมจมูก The EAST Clinic

เสริมใหม่

เสริมจมูก The EAST Clinic

เสริมใหม่

เสริมจมูก The EAST Clinic

เสริมใหม่

เสริมจมูก The EAST Clinic

เสริมใหม่